ตรวจความเรียบร้อยภายในบริเวณวัดพร้อมด้วย “ลุงน้อย” สัปเหร่อ พบเด็กชายอายุประมาณ 7-8 ขวบ จำนวน 2 คน กำลังยืนร้องไห้อยู่ด้านหลังเมรุเผาศพท่ามกลางความมืด ทำเอาตกใจ เมื่อดูดีๆ จึงตะโกนถามอยู่นานถึงจะพูดคุยรู้เรื่องว่ามากับพ่อ จึงบอกให้ไปเรียกพ่อมา หลังจากที่วิ่งไปหาพ่อที่ท้ายวัดก็วิ่งกลับมาบอกว่า “พ่อจะฆ่าตัวตาย” จากนั้นจึงพากันวิ่งไปดู พบว่าพ่อเด็กนำผ้าสีเหลืองและเชือกผูกติดกับนั่งร้านจุดชมวิวเขื่อนลำตะคอง ความสูงกว่า 7 เมตร กำลังจะใช้เชือกสวมคอเพื่อผูกคอตาย จึงได้ช่วยกันช่วยเหลือนำลงมา
จากการสอบถามทราบชื่อ นายอรรถพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30-35 ปี เครียดจัดหลังจากถูกภรรยาที่ไปทำงานด้วยกันที่ จ.กาญจนบุรี ทิ้งให้อยู่ตามลำพังกับลูกชาย 2 คน อายุ 7-8 ขวบ จึงตัดสินใจจะพาลูกกลับภูมิลำเนาที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ มีเงินติดตัวมา 200 กว่าบาท ได้เติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำน้ำเงิน พาลูกขับรถผ่านตลาดปากช่องมาถึงหน้าวัด แต่น้ำมันรถหมด ลูกก็หิวข้าว เงินก็ไม่มี เห็นวัดริมถนนมิตรภาพริมเขื่อนลำตะคองจึงพาลูกขับรถเข้าไป ลูกบอกหิวข้าว ตนไม่รู้จะทำอย่างไร เครียด หาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจจะผูกคอตาย
จังหวะที่มี ร.ต.อ.ชัยรัตน์ พันธุ์ขะวงศ์ รอง สว.ทล.1 กก.6 ตำรวจทางหลวง ผ่านมาได้เข้ามาเกลี้ยกล่อม พร้อมให้เงินไป 300 บาท และพาเด็กไปทานอาหารในศาลา และติดต่อญาติที่ จ.บุรีรัมย์ โดยญาติรับว่าจะ